“โตขึ้น หนูจะเป็นหัวหน้าฮีโร่”
เด็กน้อยหันไปบอกแม่ที่กำลังหั่นผักทำกับข้าวมื้อเย็นก่อน
“ผมเก่ง ผมเป็นได้แน่ๆ ไม่ได้เป็นแค่ฮีโร่ธรรมดานะ หนูจะเป็นหัวหน้าของฮีโร่อีกทีเลย”
แม่ยิ้ม เพราะรู้ว่าลูกของเธอสามารถเป็นได้แน่ๆ เธอหันมามองเด็กน้อย พยักหน้ารับ แล้วหันไปหั่นผักตรงหน้าเธอต่อ
“หนูไม่รู้หรอก ว่าหัวหน้าฮีโร่ต้องทำอะไรบ้าง แต่หนูเก่ง ไม่ว่าทำอะไรหนูก็ทำได้”
พูดจบ เด็กน้อยก็หันหน้าไปทำการบ้านต่อ พร้อมกับดูการ์ตูนไปด้วย
ชายหนุ่ม หลับตานึกถึงเรื่องวัยเด็กแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา ชีวิตปัจจุบันไม่เหมือนกับที่เค้าฝันไว้ในวัยเด็ก ตอนนี้ เค้านอนติดเตียงอยู่ในโรงพยาบาล จะทำอะไรก็ไม่สะดวก ไหล่ซ้ายและขวาของเขากำลังเสื่อมสภาพกลายเป็นหิน ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เหมือนเดิมอีกแล้ว แหล่งพลังงานสำคัญในร่างกายก็ใช้งานได้เพียง 40% จากคำบอกของหมอ
ตอนนี้ทำได้แต่เพียงนอนเพื่อให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความหวังที่จะได้เป็นหัวหน้าของเหล่าฮีโร่ พลังทลายลงไปนานแล้ว
“แม่ การบ้านข้อนี้หนูทำไม่ได้ คิดไม่ออก ทำไงดี” เด็กน้อยพูดเสียงเบาๆ ในขณะที่แม่ของเขากำลังก้มหน้าก้มตาเตรียมของเพื่อจะเปิดร้านขายอาหารในวันพรุ่งนี้
เด็กน้อยรู้ดีว่าแม่เข้าไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะแม่เขาไม่เคยได้ร่ำเรียนอะไรในโรงเรียนสอนวิชาฮีโร่มาก่อน เรียนจบก็แค่การศึกษาขั้นต่ำตามกำลังทรัพย์ที่ตายายพ่อจะส่งเสียได้
เด็กน้อยก้มหน้า พยายามทำการบ้านต่อ น้ำตาหยดลงบนสมุดการบ้านเพราะเขาจนปัญญาที่จะทำต่อจริงๆ
“ทำไมหนูไม่เกิดเป็นลูกของครู หรือคนที่ฉลาดๆกว่านี้นะ” เด็กน้อยนึกในใจ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป เพราะเขากลัวแม่ของเขาเสียใจ
เขารักแม่ตัวเองนะ แต่ก็อยากเกิดมาในชีวิตที่ดีกว่านี้
จะสี่ทุ่มแล้ว ไฟอัตโนมัติในโรงพยาบาลใกล้จะดับแล้ว พยาบาลเดินเอายาก่อนนอนมาให้
“ทานยาก่อนนะคะ”
ชายหนุ่มพยายามเอื้อมแขนไปรับยา ไหล่ขวาของเขาอาการหนักมาก เกือบจะกลายเป็นหินหมดแล้ว
เขากินยา แล้วนอนหลับไป
จะเขียนได้สักกี่ตอน