เลือด : พี่ไปเซนทรัลพระรามสามไหมครับ
คนขับแท๊กซี่ทำหน้าเอือมๆใส่ แล้วส่ายหน้า
เลือด : งั้นไปซอยปรีดา4 ไหมครับ ใกล้ๆ ไปส่งหน่อยนะพี่
คนขับหันมาทำหน้าตาเซ็งๆใส่ แล้วพยักหน้า
เลือดเปิดประตูเข้ามานั่งใจหนึงก็ดีใจที่เรียกรถได้ซะที หลังจากที่เค้าเรียกมาหลายคันแต่ก็ไม่มีคันไหนยอมไปส่งเค้าเลย อีกใจก็เซ็งๆ ที่คนขับไม่ยอมไปส่งยังที่ที่เค้าตั้งใจจะไปจริงๆ
…………………..
คนขับ : มันไกลน้องไม่มีใครเค้าไปกันหรอก
เลือดเงยหน้าขึ้นมาจากการนั่งดูแอปแผนที่ในมือถือ
เลือด : อ่อ เหรอครับ ถึงว่า ผมเรียกหลายคันไม่มีคันไหนไปเลย
คนขับ : เค้าวนรับส่งใกล้ๆเอา ง่ายกว่า ได้ตังเร็วกว่า ไปส่งไกลๆไม่คุ้มหรอกน้อง
คนขับ : วันก่อนนะ ฝรั่งเรียกรถพี่นะ ให้ไปส่งเซตั้มเวิล โห โคตรไกล
เลือด : … แล้วพี่ไปไหมครับ
คนขับ : โคตรไกลน้อง ใครจะไป พี่เลยบอกมัน ขอ โนมิเตอร์ ได้ไหม เอาแค่คนละพัน สองคนก็สองพัน แล้วเดี๋ยวพี่ไปส่งให้ถึงที่เลย
เลือด : โห พี่ สองพันเลยเหรอ ผมนั่งไปช่วงเลิกงาน จากตรงนี้มันแค่สี่ร้อยกว่าบาทเองนะครับ แล้วเค้าไปไหม
คนขับ : มันไม่ยอมไป มันโง่ ก็ปล่อยให้มันแบกกระเป๋าหนักๆ ของมันเดินต่อไปละกัน แค่คนละพัน ไม่ยอมจ่าย โง่ชิบเป๋ง สมน้ำหน้ามัน
เลือด : ไอ้ควย (คิดในใจ แล้วกดหน้านั่งดูแอปแผนที่ในมือถือต่อ)
เลือด : เดี๋ยวพี่เข้าไปสุดซอยแล้วเลี้ยวซ้ายนะครับ ผมลงแถวๆตรงลานที่เค้าเทขยะครับ
คนขับ : (จิ๊ปาก หนึงที) โห น้อง สุดซอยเลยเหรอ ตรงนั้น ถนนแคบกลับรถลำบากนะ พี่ไปส่งตรงหน้าร้านเซเวท ตรงกลางๆซอยแทนได้ไหม แล้วน้องเดินต่อเข้าไปอีกนิด พี่กลัวเข้าไปแล้วกลับรถไม่ได้
เลือด : กลับรถได้นะพี่ ตรงลานทิ้งขยะข้างหน้าเป็นลานกว้างๆ พี่กลับรถสบายเลย
คนขับ : (ทำเสียงจิ๊ปากอีกรอบ ไม่รู้ส้นตีนอะไรติดฟัน) เดินนิดได้ไหมน้อง ถนนมันแคบด้วย แล้วถนนมันก็มืดๆด้วย ไฟหน้าพี่ไม่ค่อยดี
เลือด : ไปส่งหน่อยพี่ เดี๋ยวผมให้พิเศษร้อยหนึง ถนนมันมืดๆ ผมไม่อยากเดินเข้าไปคนเดียวครับ
คนขับ : (ตอบรับอย่างไว) เออๆ ได้ เดี๋ยวพี่ไปส่งก็ได้ สงสารน้อง ถนนมันมืด เดินคนเดียวมันอันตราย
……………….
15 นาที รถมาถึงท้ายซอย
เลือด : เดี๋ยวพี่เลี้ยวซ้ายตรงข้างหน้าเนี๊ยะครับ เข้าไปตรงข้างๆลาน ตรงนี้เลยครับ
— เสียงเครื่องยนต์ที่เคยดังกลับเงียบลงเมื่อคนขับดับเครื่อง แท็กซี่หยุดนิ่งในมุมที่ลับตาคน
คนขับ : โอเค ว่าแต่น้องเข้ามาทำไมเนี๊ยะ
เลือดไม่ตอบ สีหน้าของเขาเรียบเฉย แต่มือของเขาที่วางอยู่บนตักค่อยๆขยับช้าๆ แสงสลัวจากไฟถนนสะท้อนให้เห็นอะไรบางอย่างที่แวววับในมือของเขา
ทันใดนั้น ความเงียบกลับกลายเป็นความโกลาหลในชั่วพริบตา นายเลือดพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มือของเขาจับมีดพกเล่มเล็กแต่คมกริบ ปลายแหลมเจาะทะลุคอของคนขับแท็กซี่ในจังหวะที่คนขับไม่ทันตั้งตัว
เสียงหายใจเฮือกสุดท้ายของเหยื่อสะท้อนก้องในพื้นที่แคบๆ เลือดสีแดงฉานพุ่งกระจายเลอะเบาะหน้าและกระจก คนขับแท็กซี่พยายามดิ้นรน แต่แรงนั้นช่างไร้ประโยชน์เมื่อเปรียบกับแรงอันแน่วแน่ของผู้ลงมือ
นายเลือดดึงมีดออกช้าๆ เลือดหยดลงมาบนพื้นรถ เสียงมันเหมือนนาฬิกาที่เดินในจังหวะสุดท้ายของชีวิตคนขับ เขามองดูร่างที่ค่อยๆสงบนิ่งอย่างเยือกเย็น
“ทำไมแค่หน้าที่ของตัวเองแค่นี้…” เขาพูดเบาๆ ทอดสายตาไปยังใบหน้าของคนขับที่ไร้ชีวิต “…ยังทำให้ดีไม่ได้เลย?”
————————–
เลือดหยิบผ้าเช็ดมือที่เตรียมไว้ในกระเป๋าเสื้อออกมาทำความสะอาดมีดอย่างใจเย็น จากนั้นค่อยๆล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบถุงพลาสติกออกมา
เขาบรรจงกระหน่ำช่วยตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่ากำลังทำพิธีกรรมอะไรบางอย่างเพื่อลบล้างความผิดที่เขาพึ่งก่อขึ้น เสียงหยดน้ำพุ่งกระฉูดเข้าไปในถุงอย่างรุนแรง
ปิ๊ด.. ปิ๊ด…
อาห์ วันนี้ไม่ค่อยมีอารมณ์แฮะ
เลือดคิดในใจ
ถ้าเปรียบเสียงน้ำกระทบกับถุงเป็นเสียงปรบมือ ก็คงเป็นเสียงปรบมือจากผู้ชมที่ไม่ค่อยพอใจกับโชว์ในครั้งนี้มากนัก เลือดค่อนข้างหัวเสียกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่น้อย
อาจเป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ขาดการวางแผนที่รอบคอบ ไม่เหมือนอย่างที่เค้าเคยทำทุกครั้ง
เลือดเก็บถุงพลาสติกใส่กระเป๋ากางเกง แล้วค่อยๆก้าวลงจากรถ ลมหายใจของเขาผสมกับไอเย็นของอากาศร้อนช่วงเดือนเมษากลางกรุงเทพ ก่อนที่เขาจะค่อยๆเดินลับหายไปในความมืด ทิ้งไว้เพียงร่องรอยแห่งความโหดเหี้ยม และคราบโปรตีนหนึ่งหยดที่เขาบรรจงหยดเข้าไปในปากเหยื่อ
กูเม้น